เห็นปฏิจจสมุปบาท คือเห็นพระพุทธเจ้า | 10 เม.ย. 67 (เช้า)

Release Date:

#ปฏิจจสมุปบาท
#ธรรมอันเป็นเหตุเป็นปัจจัย

.. ผู้ใดที่เห็นธรรม ก็เรียกว่าเห็นพระองค์เอง
.. ผู้ใดเห็นตัวพระองค์เอง ก็เรียกว่าเห็นธรรม
.. ผู้ใดเห็นธรรม ก็เรียกว่าเห็นปฏิจจสมุปบาท
.. หรือผู้ใดที่เห็นปฏิจจสมุปบาท ก็เรียกว่าเห็นธรรมะที่พระองค์ได้ตรัสสอน

ซึ่งถ้าเราจะนำมาร้อยเรียงหนึ่งก็ได้เห็นธรรมะก็ได้เห็นปฏิจจสมุปบาท

.. เมื่อผู้ใดเห็นปฏิจจสมุปบาทได้ ก็เรียกว่าเห็นพระองค์เอง

#ซึ่งพระองค์จริงๆก็เป็นธรรมะที่เรียกว่าปฏิจจสมุปบาทเองก็ได้
.
ถ้าเห็นแค่พระวรกายท่านเป็นตัวบุคคลที่เกิดมาประมาณ 2600 ปีล่วงมาแล้วเนี่ยก็เรียกว่ายังเข้าไม่ถึงตัวพระองค์จริงๆ
.
แต่ธรรมะที่เรียกว่าปฏิจจสมุปบาทถามว่าอยู่ตรงไหนล่ะ ?

ก็ไม่ใช่อะไรไกลนะ #ก็อยู่ในกายใจเรา นี่แหละ

แค่เราพากเพียรเห็นธรรมะอันเป็นเหตุปัจจัยที่เกิดขึ้นในกายในใจนี้ ก็เรียกว่าเห็นพระพุทธองค์ที่ท่านได้ตรัสบอกไว้เลย
.
เพราะฉะนั้นแล้ว พระพุทธองค์ที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสสอนไว้เนี่ยก็ไม่ใช่ใครอื่นไกล ก็อยู่ในกายในใจเรานี่แหละ ถ้าเรามีปัญญาซะหน่อย เห็นความจริงทีละเล็กละน้อย ค่อยๆเห็นสภาพอันเป็นเหตุปัจจัยนะเป็นสภาพธรรมที่ปราศจากความเป็นตัวตนเป็นสัตว์เป็นบุคคล เป็นตัวตนเป็นเราเป็นเขาเนี่ย
.
สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นแค่ภาพเหตุปัจจัยที่เมื่อสิ่งนี้มีสิ่งนี้ก็ย่อมมี เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้นสิ่งนี้ก็ย่อมเกิดขึ้น เมื่อสิ่งนี้ดับไปสิ่งนี้ก็ย่อมดับไป และเมื่อสิ่งนี้ไม่มีสิ่งนี้ก็ย่อมไม่มี เรียกว่าเป็นกฎของธรรมชาติที่เป็นเหตุปัจจัยเกิดขึ้นมา มีเพียงเท่านี้นะ
.
แต่ว่าด้วยความหลงผิดเป็นทุนเดิมธรรมชาติเหล่านี้ได้กลายเป็นตัวเป็นตนไปซะหมด เมื่อมีอะไรเกิดขึ้นมาเนี่ยมีใจก็ไปรับรู้เนี่ยสิ่งนั้นก็เรียกว่ากลายเป็นสิ่งที่เรารับรู้ขึ้นมาโดยทันทีไม่ว่าจะเป็นทางตาหูจมูกลิ้นกายใจก็ดีนะ เมื่อมีใจที่หลงผิดทุนเดิมไปรับรู้อยู่แล้วเนี่ยก็เป็นธรรมดาที่ใจเราจะค่อยเข้าไปยึดไปถือไปยึดมั่นถือมั่นในกระบวนการเหล่านี้
.
จากตอนแรกที่ถ้าใครเห็นได้ว่า สิ่งเหล่านี้จะเป็นเหตุปัจจัยทางธรรมชาติแห่งทุกข์ก็จะไม่เกิดขึ้นแก่เขาเหล่านั้นขึ้นมาแต่ถ้าใครเห็นผิดไปจากธรรมชาติเหล่านี้เนี่ยเห็นว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวเป็นตนเป็นบุคคลเป็นเราเป็นเขาขึ้นมา สิ่งที่เขาจะได้รับคือความทุกข์ที่จะเกิดขึ้นมาในใจทีละเล็กละน้อย เมื่อเกิดขึ้นมาจนเคยชิน ทุกข์ก็จะเกิดขึ้นมาได้ง่ายขึ้นง่ายขึ้น เรียกว่าเป็นกระบวนการธรรมชาติ
.
ถ้าผู้ใดเห็นอริยสัจและเห็นความจริงขึ้นมาก็ค่อยถอดถอนทิฏฐิอันหลงผิดขึ้นไปทีละเล็กละน้อได้ เมื่อทิฏฐิอันหลงผิดไม่มีที่ตั้งทุกข์ก็ไม่เกิดขึ้นแก่เขา เมื่อนั้นคนเหล่านั้นก็จะเห็น #พระพุทธเจ้าพระองค์จริง ที่เรียกว่า ท่านเป็นกระแสปฏิจจสมุปบาท

…………………………

ถ่ายทอดธรรมโดย
พระชยากร ภทฺทธมฺโม (พระผู้ช่วยสอน)
ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา
เช้า 10 เมษาคม 2567

#เห็นกระแสปฏิจจสมุปบาท #เห็นธรรม #เห็นพระพุทธเจ้า #พระชยากร #ธรรมอารี

ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่
Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree
Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation
YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree
Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/
SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree
LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol
LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ
Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com
TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

เห็นปฏิจจสมุปบาท คือเห็นพระพุทธเจ้า | 10 เม.ย. 67 (เช้า)

Title
เห็นปฏิจจสมุปบาท คือเห็นพระพุทธเจ้า | 10 เม.ย. 67 (เช้า)
Copyright
Release Date

flashback